แต่ละเมือง จะสามารถทำสงครามได้สูงสุด 2 รอบ ต่อ 1 ฤดูกาล
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุก หรือ ฝ่ายรับก็ตาม (นับรวมกับหมด)
ซึ่งผู้เล่นที่จะเข้าร่วมสงครามเมืองได้นั้น ต้องย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง
ก่อนสงครามเริ่ม อย่างน้อย 3 ชั่วโมง
ระยะเวลา :
สงครามเมืองจะมีขึ้นในทุกๆฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงเวลาประมาณ 19.00-21.00)
การประกาศสงครามเมือง :
จะทำได้เฉพาะผู้เล่นในก๊กที่มีระดับสีของเมืองสีเหลืองขึ้นไป
และไม่สามารถประกาศสงครามกับเมืองอื่นในก๊กตัวเองได้
เมืองระดับสูง (เมือง Lv 100) :
เมื่อผู้เล่นเอาชนะ NPC เมิ่งฮั่วได้ จะสามารถย้ายมายังเมืองระดับสูง Lv 100 ได้
โดย เมืองระดับเลเวล 100 นั้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 15 เมือง (เริ่มต้น ก๊กละ 5 เมือง)
และแต่ละเมืองจะมีรูปแบบพิเศษแตกต่างกันไป ซึ่งจะส่งผลในการยึดครองเมือง
ประเภทของเมือง Lv 100 :
เมืองเลเวล 100 นั้นเราสามารถแบบออกได้เป็น 5 ประเภท คือ
1. ศูนย์กลางการเมือง (Political) [ไม่อาจถูกยึดครอง]
< ฮั่นจง , หลู่หนาน , เซี่ยพี > - ถือเป็นเมืองหลวงหลักของแต่ละก๊ก
ไม่สามารถยึดครองได้ และก็ไม่สามารถประกาศสงครามได้เช่นเดียวกัน
2. ศูนย์กลางเศรษฐกิจ (Economic) [ผลลัพธ์การลงทุน 2 เท่า]
< ซั่งยง , เฉินหลิว , ซูโจว > - หากผู้เล่นลงทุนในเมืองนี้ จะเพิ่มค่า % ยึดครอง 2 เท่า
สมมติลงทุนแบบ เจริญ 10 แทนที่จะเพิ่ม 1% และลด 0.5% ก๊กอื่น ก็กลายเป็นเพิ่ม 2%
ให้ก๊กตัวเอง และลด 1% ก๊กอื่น .. ในเชิงกลยุทธ์ถือว่า เมืองนี้เป็นเมืองป้องกันที่ยอดเยี่ยม
3. ศูนย์กลางการค้า (Commercial) [ลงทุนในพื้นที่ Lv 100 อื่นๆได้]
< ซินเหยี่ย , หว่าน , โซ่วชุน > - ผู้เล่นที่อยู่ในเมืองนี้สามารถช่วยลงทุนให้เมืองอื่นๆ
ในก๊กตัวเองได้ โดยไม่ต้องย้ายเมือง (ถือเป็นเมืองสนับสนุน และตัวแปรสำคัญในเชิงกลยุทธ์)
4. ศูนย์กลางการทหาร (Military) [อัตราโจมตีได้รับการครอบครองเป็น 2 เท่า]
< เซียงหยาง , สวี่ช่าง , เจียงหลิง > - หากผู้เล่นที่อยู่ในเมืองนี้ เอาชนะผู้เล่นในเมืองอื่นได้
จะได้รับค่ายึดครอง 2 เท่า เช่นสมมติชนะ ปกติได้ 0.6% ก็จะกลายเป็น 1.2%
ถือว่า เมืองนี้ เป็นเสมือนเมืองยุทธศาสตร์ เมืองหน้าด่าน เมืองบุก ในการทำสงคราม
ซึ่งหากมีผู้เล่นเก่งๆ มาอยู่เมืองนี้ ก็จะทำประโยชน์ให้กับก๊กได้อย่างมากเลยทีเดียว
5. ศูนย์กลางวัฒนธรรม (Cultural) [ย้ายไม่จำกัดประเทศ]
< อู่หลิง , ฉางอัน , เจียงเซี่ย > - เมืองประเภทนี้ เสมือนเป็นเมืองรวม ใครจะย้ายเข้ามาก็ได้
ต่อให้ ก๊กตัวเองไม่ได้ยึดครองอยู่ก็ตาม ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรในเชิงการศึก
แต่หากรู้จักใช้ประโยชน์ เมืองนี้ ถือเป็นตัวพลิกเกม ได้เลยทีเดียว
ระบบการยึดครองเมืองและการทำสงครามใน WarFlow นั้น
แม้จะไม่ส่งผลกระทบ และมีผลได้ผลเสียกับผู้เล่นมากนัก
แต่หากมองลึกๆ โดยไม่ได้ยึดเอาผลประโยชน์เป็นหลักแล้ว
จะเห็นได้ว่า หากเราให้ความสนใจในระบบนี้จริงๆ แล้ว
จำเป็นอย่างยิ่งที่ ต้องใช้ความสามัคคี ของคนในก๊ก รวมถีง
กลยุทธ์มากมายนัก ในการชิงไหวชิงพริบ ขบเคี้ยวกันเพื่อยึดครองเมือง
ในมุมมองส่วนตัวของผม ... ระบบสงครามและยึดครองเมืองนี่แหละ
ที่จะทำให้เกม WarFlow ถูกเรียกว่า " เป็นสุดยอดเกมวางแผน ที่แท้จริง "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น